วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Organic


ผักออแกนิก(Organic)


ประวัติสวนต้นน้ำ เริ่มจากในตอนแรกคุณแม่นั้นได้ป่วยเป็นมะเร็ง คุณต้นน้ำนั้นจึงอยากให้คุณแม่นั้นทานอาหารที่มีประโยชน์จึงทำการศึกษาและปลูกผักให้คุณแม่และคนในครอบครัวได้ทาน ภายหลังมีคนในหมู่บ้านมาขอซื้อเลยขยายแปลงผักในบริเวณเนื้อที่ว่างข้างบ้าน เป็นสวนขนาดเล็ก แต่ทำด้วยใจรักและห่วงใยในสุขภาพ โดยไม่ใช้ยาฆ่าแมลง และไม่ใช้ฮอร์โมนเร่งโต กำจัดศัตรูพืชโดยวิธีทางชีวภาพ และใช้ลูกๆและคนสวนข่วยเก็บหนอน สวนผักต้นน้ำตั้งอยู่ในหมู่บ้านเมืองเอก จ. ปทุมธานี 


สวนผักต้นน้ำ
ชนิดผักที่สวนต้นน้ำนำมาปลูกเป็นผักสลัดมีทั้งหมด 8 ชนิด
  • Cos  ผักกาดคอส (Cos Lettuce) มีชื่อเรียกมากมาย ทั้งผักกาดโรเมน (Romaine Lettuce) ผักกรีนคอส เบบี้คอส เป็นผักสลัดอันดับต้น ๆ ที่นิยมรับประทานกัน ด้วยความที่ผักกาดชนิดนี้มีรสชาติขมเล็กน้อย แต่มีความกรอบและเบา เหมาะจะนำไปทำเป็นซีซาร์สลัดได้สบาย ๆ นอกจากนี้ผักกาดคอสยังอุดมไปด้วยวิตามินซี มีไฟเบอร์สูง โพรแทสเซียม และกรดโฟเลตก็สูงไม่แพ้กันด้วย


  • Rocket ใบเป็นส่วนที่ใช้บริโภค มีรสเผ็ด (peppery) เล็กน้อย โดยบริโภคสดในสลัด และในประเทศยุโรปนิยมใช้เป็นส่วนประกอบในพิซซา และพาสต้าคุณค่าทางอาหารใบอุดมไปด้วยวิตามินซี ธาตุเหล็ก



  • Green oak , Red coral  ผักเรดโอ๊คและกรีนโอ๊ค (Red Oak, Green Oak) มีทั้งสีแดงและสีเขียว ลักษณะใบหยักโค้งมน มีรสหวานกรอบ และมีกากใยอาหารสูง ช่วยล้างผนังลำไส้
  • Batavia เรดปัตตาเวีย เป็นอีกหนึ่งผักสลัดสวย สีแดงอมเขียว มีทั้งพันธุ์เขียวและแดง ทั้งประโยชน์ ทางโภชนาการผัก หน้าตาน่ามอง ท้องไม่ผูก มีวิตตามิน คาร์โบรไฮเดรตน้อย ทั้งสีสวย


  • Frillce icebrb  ผักชนิดนี้นิยมรับประทานเป็นสลัดผัก  ผักกาดแก้วอุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามินเอ วิตามินซี โพรแทสเซียม กรดโฟเลต และสารอาหาร รวมทั้งแร่ธาตุที่มีประโยชน์กับร่างกาย
  • Butterhead ผักกาดหอมบัตเตอร์เฮด (Butter head Lettuce) เองก็เป็นผักที่นิยมกินเป็นสลัดด้วยเช่นกัน เพราะมีรสชาติหวาน กรอบ อร่อย เหมาะจะกินคู่กับเนื้อปลาทูน่า และเนื้อสัตว์ชนิดอื่น ๆ อีกทั้งผักกาดหอมบัตเตอร์เฮดยังอุดมไปด้วยวิตามินเอ โพรแทสเซียม กรดโฟเลต

  • และทางร้านนั้นก็ยังมีมีน้ำสลัด homemade ที่ทำไว้ขายเองเพื่อจะได้ทานคู่กับผักสลัด เช่น wholegrain mustard dressing, japanese garlic and pepper และ dijon & honey vinegrette
น้ำสลัดhomemade


มารู้จักกับผักออแกนิคกันเถอะ ! 


ผักออแกนิก (ผักออแกนิคผักออร์แกนิก,ผักออร์แกนิค) หรือ ผักอินทรีย์ (Organic) ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่าย ๆ แล้วมันก็คือ ผักประเภทที่มีความเป็นธรรมชาติสูงมาก ไม่มีการใช้สารเคมีใด ๆ เลย เป็นผักอินทรีย์จริง ๆ เหมือนเกิดจากธรรมชาติจริง ๆ เพียงแต่การเพาะปลูกจะต้องมีการดัดแปลงสภาพต่าง ๆ เพื่อเลียนแบบธรรมชาติ เช่น ปุ๋ยในดิน การบำรุงดิน อากาศ ความชื้น น้ำ ฯลฯ เพื่อให้พืชผักสามารถเจริญเติบโตได้ด้วยวิธีแบบธรรมชาติโดยอาหารจากธรรมชาติ

ผักออแกนิก นอกจากจะเป็นอะไรที่เป็นธรรมชาติมากแล้ว การเพาะปลูกยังมีการลงทุนที่สูง ใช้ระยะเวลาในการเพาะปลูกนาน ทำให้ผักชนิดนี้หากออกสู่ตลาดแล้วจะผักที่มีราคาแพง เพราะมีต้นทุนการผลิตที่สูง ไหนจะมีเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ต้องใช้เวลาปรับสภาพ เพื่อไม่ให้แมลงศัตรูพืชมาเบียดเบียน ซึ่งบางแห่งถึงขนาดกางมุ้งปลูกกันเลยทีเดียว แต่บางแห่งก็ปลูกกันในโรงเรือน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ว่าจะปลูกด้วยวิธีไหน หรือทำให้ผักเจริญเติบโตด้วยวิธีใดก็ตาม ที่สำคัญที่สุดก็คือ ห้ามใช้สารเคมีใด ๆ ไม่ว่าสารนั้นจะไม่เป็นอันตรายต่อพืชและสัตว์ก็ตาม จะใช้ได้แต่เพียง อินทรีย์ที่มาจากธรรมชาติเท่านั้น จึงจะถือว่าเป็น ผักออแกนิก

ผักออแกนิก ส่วนประกอบทุกอย่างมาจากธรรมชาติ ผักออแกนิกจะไม่มีการใช้สารเคมีหรือสารสังเคราะห์ใด ๆ เลยในการปลูกและการเพาะเลี้ยง โดยจะเป็นผักที่เลี้ยงและโตขึ้นมาด้วยอาหารจากธรรมชาติล้วน ๆ ปลูกในดินบ้าน ๆ ที่ปลอดสารเคมี ใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกจากธรรมชาติในการเพาะปลูก และเมล็ดที่ใช้ไม่มีการตกแต่งพันธุกรรม จึงเรียกได้ว่าเป็นการสร้างอาหารแบบธรรมชาติล้วน ๆ 100% ส่วนประกอบทุกอย่างจึงบริสุทธิ์ ไม่มีสารพิษต่าง ๆ มาช่วยก่อมะเร็งดินที่ใช้ในการทำเกษตร ต้องเป็นดินที่ดี มีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแร่ธาตุและสารอาหาร สามารถอุ้มน้ำและระบายน้ำได้ดี มีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์อยู่ในดินมากเพื่อช่วยในการย่อยสลายสารอาหาร และทำให้รากสามารถดูดซึมสารอาหารได้ง่าย รวมไปถึงยังช่วยป้องกันโรคและแมลง ช่วยเร่งการเจริญเติบโต และทำให้พืชผักที่ปลูกมีความแข็งแรง โดยดินที่ใช้ในการเพาะปลูกต้องทำให้ปลอดสารพิษไม่น้อยกว่า 3 ปี หรือต้องเป็นแปลงที่ไม่มีการใช้สารเคมีมาแล้ว 5 ปีน้ำที่ใช้จะต้องไม่มาจากแหล่งน้ำลำคลองทั่วไป เพราะแหล่งน้ำประเภทนี้จะปนเปื้อนไปด้วยสารเคมีมากมาย ซึ่งเป็นสารตกค้างที่ถูกปล่อยมาจากการใช้น้ำตามบ้านเรือนต่าง ๆ หรือมาจากน้ำเสียของโรงงานทั่วไป โดยการปลูกผักออแกนิกบางแห่งจะใช้น้ำที่ขุดลึกภายในไร่ที่มีความลึกถึง 150 เมตร หรือน้ำที่อยู่ใต้ดิน


วิธีการปลูกผักออแกนิกแบบใช้รางน้ำ


การเพาะเมล็ดด้วยฟองน้ำ ตัดฟองน้ำให้เป็นสี่เหลี่ยมเท่าๆกัน แล้วกรีดฟองน้ำตรงกลางเป็นรูปกากบาทเสร็จแล้วใส่ฟองน้ำลงไปในกระบะราดน้ำลงไปในกระบะแล้วนวดฟองน้ำให้ฟองน้ำอุ้มน้ำจากนั้นนำเมล็ดที่ต้องการปลูกวางลงไปในฟองน้ำแล้วกดให้ลึกประมาณครึ่งเซนติเมตร เมื่อใส่ครบทั้งกระบะแล้วก็นำไปเก็บไว้ในที่ร่มประมาณ 2-3 วัน รดน้ำเช้าเย็น ห้ามให้น้ำแห้ง ประมาณหลังจากวันที่ 3 ต้นกล้าก็จะงอกออกมา เมื่อต้นกล้างอกออกมา ก็นำออกไปรับแสงแดด 5-6 ชั่วโมง แล้วเก็บไว้ในที่ที่มีแสงสว่าง ทำประมาณ 4-5 วัน เติมน้ำเปล่าประมาณครึ่งฟองน้ำ ระวังอย่าให้น้ำแห้ง เมื่อต้นกล้ามีใบจริงหรือใบที่ 3 งอก อายุประมาณ 7 วัน ให้เติมน้ำที่ผสมสารละลายธาตุอาหาร A และ B อย่างละ 5 ซี.ซี. ต่อน้ำ 1 ลิตร ให้สูงประมาณครึ่งฟองน้ำ และหมั่นตรวจสอบระดับน้ำอยู่เสมอ ระวังอย่าให้น้ำแห้ง
การลงรางปลูก ทำในช่วงเย็น : เมื่อต้นกล้าอายุได้ประมาณ 14  วัน ก่อนนำลงรางปลูกให้เติมน้ำลงถังน้ำ 40 ลิตร ปรับค่ากรด-ด่าง pH 5.5.-6.5 (ให้วัดค่า pH ก่อน แล้วอ่านค่าถ้าเป็นน้ำประปาจะได้ค่า pH ประมาณ 6.8 ขึ้นไป ให้ใส่ pH down ทีละ 10 cc. แล้ววัดค่า pH ทำสลับกันไปจนปรับค่า pH ที่ 5.5-6.5 ) ให้เติมสารละลายธาตุอาหาร A ก่อนสารละลายธาตุอาหาร B ก่อนประมาณ 30 นาที อย่างละ 200 cc. ต่อน้ำ 40 ลิตรอัตราส่วน 1:200 (ในกรณีที่มีเครื่องวัดEC ให้ความเข้มข้นของสารละลายอยู่ที่ประมาณ 1.2 ) 


ประโยชน์ของผักออแกนิก


  1. ทำให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพดี ไม่มีสารพิษตกค้าง และมีความปลอดภัยสูงต่อผู้บริโภค เนื่องจากผักออแกนิกเป็นผักแบบธรรมชาติล้วน ๆ 100% ส่วนประกอบทุกอย่างจึงมีความบริสุทธิ์ ไม่มีสารพิษต่าง ๆ ที่เป็นสารก่อมะเร็ง
  2. การบริโภคผักออแกนิก ในปริมาณที่เหมาะสมเป็นประจำจะช่วยทำให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดีขึ้น ทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยได้ง่าย มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
  3. ช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้ เพราะผักออแกนิกจะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่มากกว่าพืชผักทั่วไป ซึ่งเป็นที่ยอมรับแล้วว่ามีส่วนการใช้ต่อต้านมะเร็ง
  4. ช่วยลดอัตราเสี่ยงเด็กสมองพิการ เด็กซนผิดปกติ และโรคออทิสติก เพราะสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์นั้นมีมากกว่า 100 ชนิด ที่เป็นสาเหตุของโรคดังกล่าว และการรับประทานผักออแกนิกยังเป็นผลดีแก่กับตัวคุณแม่เอง และยังช่วยทำให้น้ำนมของคุณแม่มีปริมาณของกรดไขมันที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูงกว่าปกติ
  5. ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่ายาฆ่าแมลงที่ตกค้างอยู่ในผักทั่วไป จะมีผลโดยตรงกับฮอร์โมนเพศและทำให้เซ็กส์เสื่อมได้ หากคุณไม่อยากเสี่ยงก็ควรหยุดรับประทานผักที่ใช้สารเคมีอีกเลย
  6. เมื่อเปรียบเทียบกับผักทั่วไปแล้ว ผักออแกนิกจะมีวิตามิน เกลือแร่ เอนไซม์ และสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณค่ามากกว่าผักทั่วไป (แต่บางข้อมูลระบุว่าปริมาณของวิตามินของพืชผัก ระหว่างการปลูกแบบออแกนิกและการปลูกโดยทั่วไปนั้นไม่มีความแตกต่างกัน (มีเพียงฟอสฟอรัสเท่านั้นที่ผักออแกนิกมีมากกว่าผักทั่วไป) แต่มันก็ยังดีกว่าใช่ไหมละครับที่เราจะไม่ได้รับสารพิษเข้าไปในร่างกายทุกวันจากการรับประทานผักทั่วไป เพราะ 1 ใน 3 ของผักที่ปลูกตามปกตินั้นตรวจพบยาฆ่าแมลง)
  7. รสชาติของผักออแกนิกจะดีกว่าผักที่ปลูกกันทั่วไป ถ้านึกไม่ออกให้ลองนึกถึงผลไม้ในฤดูกาลกับผลไม้นอกฤดูกาลที่ต้องใช้สารเคมี ว่าผลไม้แบบใดมีรสชาติที่ดีกว่า
  8. นอกจากจะเป็นผักที่ไม่มีสารพิษแล้ว กระบวนการเพาะปลูกต่าง ๆ ยังเป็นการช่วยลดมลพิษไปได้อีกด้วย เพราะการปลูกผักทั่วไปจะทำให้สารเคมีที่ใช้ป้องกันและกำจัดศัตรูพืชปนเปื้อนในดิน ในน้ำ และในอากาศ
  9. ช่วยฟื้นฟูสภาพดิน เนื่องจากการเกษตรแบบใช้สารเคมีนั้นเป็นที่ทราบกันดีว่าจะทำให้ดินเสื่อมคุณภาพและไม่มีคุณสมบัติที่ดีในการเพาะปลูก ทำให้ปลูกอะไรก็ไม่ได้ผลผลิตที่ดีตามต้องการ อีกทั้งผักที่ปลูกก็แทบจะไม่ได้คุณค่าทางสารอาหารที่ครบถ้วนอย่างที่ควรจะเป็น
  10. ช่วยเพิ่มความหลากหลายทางชีววิทยา เพราะการไม่ใช้สารเคมีหรือยาฆ่าแมลงจะช่วยทำให้มีชีวิตในท้องถิ่นมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ และช่วยเพิ่มความหลากหลายทางชีววิทยาไปเรื่อย ๆ
  11. ช่วยทำให้เกษตรกรผู้เพาะปลูกมีสุขภาพอนามัยที่ดีขึ้น เนื่องจากไม่มีการใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย ทำให้เกษตรกรปลอดภัยจากสารเคมีเหล่านี้ได้
  12. ช่วยลดต้นทุนการผลิตในด้านค่าใช้จ่ายในการซื้อปุ๋ยและสารเคมีต่าง ๆ และช่วยลดปริมาณการนำเข้าของสารเคมีจากต่างประทศ (ในแต่ละปีประเทศไทยมีการสั่งซื้อจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก)
  13. ผักออแกนิกทำให้เกษตรกรมีรายได้จากการจำหน่ายผักเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากผลผลิตที่ได้เป็นที่ต้องการของตลาด เพราะเป็นผักที่มีคุณภาพดีและปลอดภัยจากสารพิษ จึงทำให้จำหน่ายได้ในราคาที่สูงขึ้น

สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน 4.0 International.